Search This Blog

Monday, February 15, 2016

“คงจะบ้า ถ้าหวังผลลัพธ์ใหม่ กับวิธีเดิมๆ” – 5 เทคนิคเปลี่ยนตัวเองให้ได้งาน

คุณลองนึกย้อนไปถึงวันที่คุณอยากได้งานทำ แต่โดนปฏิเสธมาจากงานที่อยากได้มากๆ หรือมีอะไรที่อยากได้ แต่ยังไม่ได้สักที แล้วลองตั้งเป็นคำถามให้ตัวเองตอบดูนะคะ ว่าคำตอบของคุณคืออะไร  ตัวอย่างเช่น
  • คุณอยากได้งานใหม่ แต่คุณทำอะไรเพื่อให้ได้มันบ้าง?
  • คุณอยากพูดภาษาอังกฤษได้(บ้าง) แล้วคุณทำอะไรให้คุณพูดได้?
  • คุณอยากได้เงิน(มากๆ) แต่คุณนั่งถูต้นไม้ขอเลขอยู่ ... หรือเปล่า?
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงแห่งโลกฟิสิกส์ เป็นผู้กล่าวประโยคที่เป็นหัวข้อในบทความวันนี้ ตีความแบบเจ็บน้อยหน่อยได้ว่า หากคุณอยากได้อะไรใหม่ๆ คุณต้องเปลี่ยนวิธีที่ทำอยู่!


ครูอยากให้คุณลองลิสต์คำตอบของคุณดูจากสามคำถามด้านบนว่า ในวันที่คุณ "พลาด" ในสิ่งที่คุณอยากได้นั้น คุณทำอะไรบ้างที่ทำให้ผลลัพธ์นั้นมันเปลี่ยนไป...
  • นั่งติดขอบจอดูละครยอดฮิต ทำให้คุณได้งานไหม?
  • นั่งส่องเฟสเพื่อน ดูคลิปคนตีกัน แย่งแฟนกัน ช่วยให้คุณพูดภาอังกฤษได้ไหม?
  • คิดว่า "มันยากจัง" "เหนื่อยจัง" "พรุ่งนี่ค่อยทำละกัน" จะทำให้คุณได้เงินมาก อย่างที่คุณอยากได้ไหม?
หากตอบคำถามได้แล้ว ลองมาดูสมการง่ายๆของ ไอน์สไตน์ ที่หลายๆคนยังไม่เข้าใจ หรือนึกไม่ถึง นั่นคือ
          วิธีเดิม     ผลลัพธ์ใหม่    

ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร วิธีเดิมๆของคุณ ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ใหม่ๆได้  ปัจจุบันที่คุณเป็นอยู่(ผลลัพธ์ในปัจจุบัน) เป็นผลมาจากอดีตของคุณทั้งหมด (มาจากวิธีเดิม)  ดังนั้น หากคุณต้องการผลลัพธ์ใหม่ คุณต้องทำอะไรที่ไม่เหมือนเดิม สมการจะเปลี่ยนเป็น      
       วิธีใหม่   =  ผลลัพธ์ใหม่

ยกตัวอย่างจากการที่คนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาไม่รู้กี่สิบปี กี่ปีผ่านไปครูก็ยังเห็นหลักสูตรการสอนเน้นที่หลักแกรมม่า สอบแบบเลือก a. b. c. d. ท่องจำ แล้วคนเรียนไปเป็นสิบๆปี ก็พูดไม่ได้สักที ปัจจุบัน การเรียนภาษาอังกฤษในบ้านเราก็ยังเป็นแบบเดิมอยู่ในหลายๆพื้นที่ และคนก็ยังพูดภาอังกฤษไม่ได้สักที เข้าหลักสมการ  วิธีเดิม     ผลลัพธ์ใหม่
 
เพราะฉะนั้น หากคุณอยากได้ผลลัพธ์แบบใหม่ คุณต้องลอง 5 เทคนิคต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ใหม่ๆในชีวิตที่คุณอยากให้เป็น
 
1. เลิกบ่น แล้วลงมือทำ – Stop complaining and Just do it!
ข้อนี้อาจทำยาก เพราะสำหรับบางคน การบ่น (Complain) คือการปลดปล่อย ลองค่อยๆแปลงการบ่น เป็นการมองหาทางออก (Solution) เช่น  "เห้อ วันนี้รถติด น่าเบื่อที่สุด" เป็น "วันนี้ตอนรถติด ได้ฟังภาษาอังกฤษในรถตั้งชั่วโมงนึงแน่ะ"  เมื่อมุมมองเปลี่ยน วิธีการคุณจะเปลี่ยน และชีวิตก็จะเปลี่ยน  คิดได้แบบนี้ก็ไม่ต้องรอแล้วค่ะ ลงมือทำซะ เลิกบ่นแล้วทำทันที

2. ปลดล็อคทางความคิด เลิกยึดติด – Ask yourself Wouldn’t it be nice if….?
การยึดติดว่า น.ศ. จบใหม่เงินเดือนเริ่มต้นคือ หมื่นสอง หมื่นห้า ทำให้คุณตีกรอบความคิดว่าศักยภาพคุณมีไม่เกินเท่าคุณค่าที่ถูกตีราคาไว้ ในการต่อรองเงินเดือน หลายๆจึงคนไม่กล้าขอเงินเดือนมากๆ เพราะคิดว่าเราคงได้เท่านี้แหละ เดี๋ยวจะไม่ได้งาน แต่คุณทราบไหม หากบริษัทเขาเห็นว่า คุณมีของ" เอาจะแหกกรอบของเขาเพื่อให้ได้คุณมา  เพราะฉะนั้น ตื่นมาเช้าๆ ลองถามตัวเองดูว่า Wouldn’t it be nice if….? คือ "มันคงดีนะ ถ้าหากว่าชั้น... (จะได้งานดีๆ เงินดีๆ /  จะพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ได้แล้วต่างชาติรู้เรื่อง?)" ปลดแอกตัวเอง และใส่ความอยากของคุณเข้าไป พูดกับตัวเอง เตือนสติตัวเองทุกวันในสิ่งที่อยากได้หรืออยากเป็น แล้วศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณอาจทำให้คุณประหลาดใจ

3. เขียนเป้าหมาย แล้วท้าลุย – Put what you want down in writing
ทำไมคุณต้องเขียน เพราะเมื่อมันถูกเขียนออกมา มันจะชัดเจน มันจะเตือนคุณทุกวัน คุณกลับมาอ่านใหม่กี่ครั้งก็ได้ เขียนสิ่งที่คุณอยากได้ตัวใหญ่ๆ แล้วแปะไว้ที่กระจกที่คุณมองทุกวัน อาจเป็นในห้องน้ำ หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง (อาจเอาลงเป็น Background ในโทรศัพท์ของคุณไปเลย) มันจะเตือนให้คุณระลึกอยู่เสมอว่า คุณอยากได้อะไร แล้วคุณก็ ลงมือทำทันที  (ครูเอารูปผู้หญิงหุ่นหน้าท้อง 6 แพคไว้ที่หน้าแบคกราวโทรศัพท์ เพราะอยากหุ่นดี 5555555 เวลาหยิบโทรศัพท์มาดู มันก็เตือนเราให้ออกกำลังกายทุกวันนะ) ลองทำดูค่ะ

4. รายล้อมตัวคุณด้วย 5 คนคนต้นแบบ  – surround yourself with 5 ideal persons
เวลาคุณเรียนวิชาเลข คุณเดินไปหาอาจารย์สอนเลข หรือสอนพละ?  มีไหมใครอยากเก่งภาษาอังกฤษ แล้ววิ่งเข้าไปคุยกับคนทัวร์จีนที่พัทยา จงรายล้อมตัวเองด้วยการจัดอันดับ 5 บุคคลต้นแบบที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายที่คุณเขียนไว้ในข้อ 3  หากคุณอยากพูดภาอังกฤษได้ ให้คุณเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่พูดได้เก่ง  หากอยากเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน คุณก็วิ่งเข้าไปหาคนที่เขาเป็นแล้วและทำได้ดี เรียนรู้จากเขาว่า เขาใช้ชิวิตอย่างไร วันๆนึงเขาแบ่งเวลาอย่างไร เรียนรู้จากเขาและทำวิธีที่เขาทำ เพราะเขาพิสูจน์มาแล้วว่ามันทำได้สำเร็จ ถึงเวลาที่คุณต้องเรียนรู้เพื่อทำให้ตัวเองสำเร็จแล้ว 5 คนต้นแบบของคุณคือใครคะ?

5. ฝึก ฝึก และ ฝึก - Practice Practice Practice  
ศักยภาพสามารถสร้างได้ มันคือการฝึกและพัฒนาที่ไม่มีขีดจำกัด คุณเท่านั้นที่จะจำกัดศักยภาพของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกที่ได้ผลดีที่สุดในโลก คือการฝึกโดยเราไม่รู้สึกว่าเรากำลังฝึกอยู่ เพราะเมื่อคุณรู้สึกว่าคุณเหนื่อย คุณจะท้อ คุณจะคิดว่ามันลำบาก มันยาก คุณจะไม่อยากทำต่อ  เพราะฉะนั้นเมื่อคุณกำลังฝึก คุณยิ้มให้ตัวเองว่า "ชั้นทำได้" และสนุกไปกับมัน ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ และคุณจะ Practice practice practice ไปตลอดชีวิตได้แบบมีความสุข (ข้อนี้ครูทำมาตลอดในการพูดภาษาอังกฤษ แล้วตอนนี้ก็ชนะเลิศค่ะ!)

สรุป 5 เทคนิค เปลี่ยนตัวเอง
1.  เลิกบ่น แล้วลงมือทำ – Stop complaining and Just do it!
2.  ปลดล็อคทางความคิด เลิกยึดติด – Ask yourself "Wouldn't it be nice if......?"
3. เขียนเป้าหมาย แล้วท้าลุย – Put what you want in writing
4.  รายล้อมตัวคุณด้วย 5 คนแบบอย่าง – Surround yourself with 5 ideal persons
5.   ฝึก ฝึก และฝึก - Practice Practice Practice

อย่าลืมสมการของไอน์สไตน์ "วิธีเดิมๆ  ผลลัพธ์ใหม่" นะคะ
โปรดติดตาม English Version ของบทความนี้ได้ ในโพสต่อไปค่ะ
 
Keep well & see you soon ^^
KRUBOW SUNIDA

ติดตามได้ที่ www.facebook.com/eng.interview 
#สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษให้ได้งาน

บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก คุณบัณฑิต อึ้งรังษี
Inspired by Mr. Bundit Ungrangsee
Thailand’s Top Bestseller, Speakers and Trainer of the Trainers
http://bundit.org/  and https://en.wikipedia.org/wiki/Bundit_Ungrangsee
photo credit: http://www.sevenquotes.com/insanity/

No comments:

Post a Comment