Search This Blog

Monday, March 7, 2016

5 เทคนิค จัดเวลาปั้นทักษะภาษาเพื่อลูกรัก (ฉบับพ่อแม่ไม่มีเวลา) ep.1













“พ่อแม่ ต้องไปทำงานนะลูก” 
   “พ่อแม่ไม่มีค่อยเวลา”

สองประโยคจี๊ดหัวใจคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำงาน

หมดยุคโลกสวย และถึงเวลาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงค่ะ เมื่อ คุณพ่อและคุณแม่ยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ หลายท่านมีเวลาอยู่กับลูกจำกัด และสุดท้ายลูกก็ต้องอยู่กับ ปู่ย่าตายาย ญาติหรือพี่เลี้ยง

หากคุณอยากทำให้ลูกได้สองภาษา แต่ไม่ค่อยมีเวลา ครู มี 5 เทคนิคในการจัดเวลาปั้นทักษะทางภาษาเพื่อลูกรัก มาฝากกัน เราจะมาทำทั้ง 5 เทคนิคนี้ บนพื้นฐานที่ว่า “ทำเวลาที่มี ให้มีค่าที่สุด” (Maximize the Outcome of Your Limited Time)

หากเวลาเป็นปัญหาหลัก คุณพ่อคุณแม่ ต้องรู้จักที่บริหารจัดการสิ่งที่คุณมีอยู่ในมือ และทำให้มันออกผลให้ได้มากที่สุด (Increase Productivity with Existing Resources) ครูหมายถึง หากคุณพ่อคุณแม่มีเวลาจำกัดที่จะอยู่กับลูก เช่น เพียงแค่ ช่วงค่ำหลังเลิกงาน ประมาณ 1-2 ชม.ก่อนลูกนอน นั้น เราต้องใช้มันให้ก่อเกิดประโยชน์สูงสุด
==========================================
5 เทคนิค จัดเวลาปั้นทักษะภาษาเพื่อลูกรัก มีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

1. ตั้งปณิธานว่า ใน 1-2 ชม.นี้ พ่อ-แม่ จะไม่แตะโทรศัพท์
ไม่เล่นไลน์ ไม่หยิบโทรศัพท์มาอัพเดทสเตตัส วางทุกอย่างไว้ในกระเป๋า บนโต๊ะ... และหันมา มองเข้าไปใน “ดวงตา” ของลูกเรา และ “คุย” กับเขา การพูดคุยกับลูก จะทำให้ทั้งลูกและ พ่อ-แม่ รู้จักซึ่งกันและกันมากขึ้น

เด็ก ซึมซับจากการกระทำของพ่อแม่ และคนรอบข้างที่เขาใช้เวลาอยู่ด้วย หากคุณใส่ใจกับเขา เขาจะเรียนรู้ที่จะใส่ใจกับผู้อื่นค่ะ
----------------------
2. เลือกช่วงเวลา 15 นาทีในแต่ละวัน
ที่จะมีกันแค่ พ่อ-ลูก หรือ แม่-ลูก นั่งคุยกัน คุยกันแบบเปิดอกคุย จับมือ กอด หอมแก้ม หากคุณพ่อหรือคุณแม่ท่านไหนเขิน ..ขอให้ทราบไว้ค่ะว่า ทุกอย่างมีครั้งแรกทั้งนั้นนะคะ

การสื่อสารทั้งทางภาษากาย ภาษาใจ ภาษาพูด หรือแม้แต่ภาษาเขียน สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีจากพ่อแม่ สู่ลูกค่ะ
----------------------
3. ทำกิจกรรมพิเศษ ร่วมกันในเวลาที่มี
หากมี 30 นาที คุณอาจทำเวลานั้นให้เป็น เวลาแห่งโลกนิทาน ให้เขารู้จักเลือกเรื่องที่อยากมาอ่านด้วยกัน (ฝึกการตัดสินใจ การเป็นผู้นำ)

หากคุณมีประมาณครึ่งวัน แค่วันอาทิตย์ ..เป็นครั้งเดียวในทุกๆอาทิตย์ที่คุณจะมีเวลาให้ลูกของคุณ คุณอาจจัดเป็น Sunday Outing หรือ “ไปเที่ยวกัน วันอาทิตย์” แต่ละครั้งอาจไปสถานที่ต่างๆ เช่น ท้องฟ้าจำลอง เขาดิน หรือ อาจพาเขาไปดูกิจกรรมการเรียนรู้นอกเหนือจากวิชาการ เช่น เทควันโด ว่ายน้ำ ทำกับข้าว ร้องเพลง เล่นดนตรี ขึ้นอยู่กับความชอบของเขาเป็นหลัก

คุณพ่อคุณแม่ สามารถช่วยระดมความคิด (Brainstorming) ให้เหตุผลเปรียบเทียบกันในกิจกรรมต่างๆ ว่าเขาน่าเลือกกิจกรรมไหน ก็ได้ค่ะ

การทำให้เขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ จะทำให้เขาเรียนรู้ที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบต่อตนเองค่ะ
----------------------
4. มีส่วนร่วมในกิจกรรมของพ่อแม่
คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็ยุ่งเรื่องงานมากอยู่แล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะเป็นวันสะสางทั้งหลาย เช่น ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า หรือแม้แต่การออกไปชำระค่าสาธารณูประโภค การซื้อกับข้าวเข้าบ้าน เป็นต้น

คุณพ่อคุณแม่สามารถทำให้ลูกๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรของครอบครัวได้ค่ะ เช่น
♡ ซ่อมไดร์เป่าผมให้คุณแม่ด้วยกันกับคุณพ่อ
♡ ช่วยคุณพ่อหยิบเครื่องมือซ่อมรถ
♡ ช่วยคุณแม่จัดเรียงหนังสือบนชั้น
♡ เก็บผ้าปูที่นอนร่วมกัน
♡ หรือแม้แต่จัดที่นอนก่อนนอนด้วยกัน

คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำอยู่แล้วเป็นประจำ วิธีนี้ คุณพ่อคุณแม่จะเป็นสุดยอด Time Manager หรือ ผจก.การจัดการเวลาเลยค่ะ กิจวัตรของเราก็เสร็จ (บางทีช้าไปบ้าง) แต่ได้คุยกับลูก ได้สอนเขาถึงหน้าที่รับผิดชอบที่พึงมีต่อตนเอง และครอบครัว

คุณพ่อคุณแม่ต้องเรียนรู้ที่จะใจ เย็นๆ ลูกจะชอบเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งที่เราทำ เช่น ชอบมานั่งตักเวลาเห็นเราใช้คอมพิวเตอร์ หรือชอบมา”ช่วยพับผ้า” ไม่ว่าจะช่วยหรือจะป่วน เราสามารถค่อยๆ แบ่งงานง่ายๆ ให้ลูกทำ เท่านี้ เราก็สามารถใช้เวลาที่มีอยู่น้อยนิด ด้วยกันได้แล้วค่ะ สายสัมพันธ์ระหว่าง พ่อแม่ลูก บังเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ
----------------------
5. เขียนโน้ตให้ลูก
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับลูกทุกวัน เราก็ Skype หรือ LINE หากันบ้าง แต่หากเราคุยแบบนั้นบ่อยๆ อาจต้องระวังเรื่องลูกติดแท็บเล็ต หรือโทรศัพท์

หากเมื่อไร ที่ตัวเองครูต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อสอนบ่อยๆ ครูจะแอบเขียนโน้ตไว้ในสมุดฝึกทำเลข หรือเอากระดาษโน้ตเล็กๆ มาวาดรูปหัวใจ หรือเขียนสั้นๆว่า “I ♡ you” แล้วสอดไว้ในกระเป๋า แปะไว้บนขวดน้ำดื่ม หรือใส่ไว้ในกล่องดินสอของลูกที่เอาไปโรงเรียน

เมื่อเวลาเขาเห็นโน้ตของเรา เขาจะดีใจมาก เหมือนเล่นเกมส์หาขุมทรัพย์ ขุมทรัพย์นั้น ก็คือ โน้ตเล็กๆ จากใจพ่อและแม่ ....

วันหนึ่ง เขายื่นกระดาษให้ที่พับครึ่งไว้มาให้ แล้วบอกว่า “แม่ขา เดี๋ยวแม่ค่อยอ่านนะคะ” เวลาผ่านไป ครูนึกได้ก็มาเปิดดู มีตัวหนังสือโย้เย้เล็กๆ เขียนแค่ว่า “I ♡ u” ครูหันหลังกลับหาเขาทันที กอดเขาพร้อมน้ำตาเอ่อล้นออกมาจากหัวใจ “Anya, I love you too” ครูกล่าวปิดท้ายไว้ แล้วก็จะจำรอยยิ้มที่สวยที่สุดของลูกในวันนั้นได้ไม่มีวันลืมเลยค่ะ

เราแสดงให้ลูกเราเห็นอย่างไร นั่นแหละ คือสิ่งที่เขาจะเป็น

หากคุณตะโกนใส่เขา เพราะเขาทำอะไรไม่ทันใจคุณ หรือไม่ได้ดั่งใจคุณ วันหนึ่ง เขาก็จะตะโกนใส่คุณหรือคนอื่นๆ แบบที่เขาซึมซับมาจากคุณ

หากคุณแสดงความรักต่อเขา ให้เขาซึมซับมันในทุกอนูของหัวใจเขา วันหนึ่ง เขาก็จะแสดงต่อโลกนี้ให้ได้เห็นว่า เราสามารถแสดงความรัก ความเมตตา ต่อผู้อื่นได้อย่างไร

==========================================
จะเห็นได้ว่า 5 เทคนิคนี้ เป็นการจัดเวลาในแบบที่ทุกคนสามารถลองทำดูได้ทั้งสิ้น ซึ่งจะทำคู่กันไปกับ “การสร้างสัมพันธ์” อันแน่นแฟ้น ระหว่างพ่อแม่ และลูก

เพราะหากเวลาคุณมีน้อย คุณต้องทำมันให้ มีคุณค่าที่สุดค่ะ

ตอนหน้า ครูจะมาแนะนำเทคนิค การปั้นทักษะภาษาให้ลูก ฉบับ busy mommy & daddy (ฉบับพ่อแม่ติดงาน) ที่เราสามารถทำได้หลังจากเราผันตัวเองเป็น ผจก. การจัดการเวลาเพื่อลูก ค่ะ

See you ^^
KruBow@ParentRangers
Column: ภาษามั่น ปั้นชีวิต กับครูโบว์
===============================================
#ParentRangers
#‎CareRanger‬
‪#‎LearnRanger

No comments:

Post a Comment